มือยิง แฟน มือยิง บนโรงพักปล่อยโฮ ขอโทษแฟน ผู้เสียชีวิต ลั่นสูญเสียทั้งสอง ไรเดอร์เล่าความจริงอีกมุม จากปมการมีความขัดแย้งเหตุรถชนและทำร้ายร่างกายกัน
กรณี “ม่อน” ถูก “พี” มือยิงใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตบน สน.หลักสอง ขณะพนักงานที่ทำหน้าที่ด้านการสอบสวนนัดทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหาย เหตุเพราะขัดแย้งกันจากเหตุรถชนแล้วก็รังแกร่างกายกัน ด้านผู้เสียชีวิต ถูกโซเชียลกระหน่ำว่าควรตายแล้ว เพราะไปทำเขาก่อน ทำให้ครอบครัวเกิด ความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก อยากขอความเที่ยงธรรม
รายการโหนกระแส มือยิง วันที่ 19 ธ.ค. 65
ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ คุณปัท ภรรยาผู้เสียชีวิต, ทนายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความของครอบครัวผู้เสียชีวิต, ทนายเอกสิทธิ์ ศรีสังข์ หรือ ทนายเพชร มาดูแลคดีนี้อีกคน , ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตร์อารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ตั้งแต่เริ่มแรกเกิดอะไรขึ้น?
ปัท : ตั้งแต่ 16 กันยายน 5 โมงเย็น หนูกลับจากไปเที่ยว ไปกันหลายคนในกลุ่ม ต่างคนต่างแยกกันกลับ ในรถมี 5 คน มีแฟน ป้า หลานอายุ 20 ผู้ชายและแฟนหลานด้วย จนถึง จุดยูเทิร์น แถวเพชรเกษม รถคู่กรณีเปิดเลนที่สอง ปกติกลับรถมีเพียงแค่เลนเดียว แต่เขามาเป็นเลนที่สอง แฟนหนูมาทางตรง เขาก็ปล่อยให้รถไหลไปปกติ ไม่ได้ให้คู่กรณีกลับรถ
หลังเขากลับรถได้ เกิดอะไรขึ้น?
ปัท : เขาก็ขับตามค่ะ แฟนก็บอกว่าดูรถคันนั้นดิ เปิดไฟสูงแล้วมาจี้ตูด หนูก็มองดูกระจกหลัง ก็เออว่ะ มันเปิดไฟสูงเพราะอะไรวะ หลังจากนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรเลย แต่มีจุดนึงที่หนูวิ่งเลนขวา เขาวิ่งเลนซ้ายแล้วมาปาดหน้าหนูอีกที เขาจงใจปาดหน้าค่ะ แฟนหนูก็เริ่มไม่พอใจ มาปาดหน้าเฉียบพลัน จากนั้นก็มีการปาดกันไปปาดกันมา จนถึงมาถึงจุดเกิดเหตุที่ต่อยกันค่ะ แฟนหนูราวกับเขาอยากให้จอด แต่เขาไม่จอด พอถึงจุดที่ตรงนั้นเสมือน ทางคู่กรณีพยายามทำให้หนูจอด เข้ามาแทรกข้างเพื่อจอด แฟนหนูเลยเปิดกระจก ปาขวดลิโพไปขวดแรก เฉี่ยวหน้ารถไป ไม่โดนรถนะคะ เท่านั้นแหละค่ะ เขาก็จอดรถ รวมทั้งเปิดกระจกถือวิดีโอถ่าย แฟนหนูเลยโยนขวดที่สองเข้าไปในรถ โดนโทรศัพท์เขาค่ะ
จากนั้นเขาเอาขวดเดิมที่โยนไปปากลับมา โดนมั้ย?
ปัท : ไม่โดนค่ะ แฟนหนูก็ลงจากรถเลย ไปมีเรื่องตามคลิปเลย คือไปต่อยค่ะ หลานอายุ 20 ลงไปห้าม ไปแยกค่ะ ไม่ได้รุม
พี่สมเกียรติเข้าไปดูเรื่องนี้ยังไง?
สมเกียรติ : หลังจากตรงนี้ ทางคนตายก็ติดต่อประสานงาน ผมได้ติดต่อสน.เพื่อขอนำผู้เสียชีวิตไปมอบตัว ไปสารภาพ แล้วนัดกับตร. ไม่มีการจับตัวนะฮะ ที่บางข่าวพูดว่ามีการจับกุมนี่ไม่จริงนะ สองพอไปถึงโรงพัก ตร.มีการตรวจร่างกาย ทีกล่าวถึงว่ามีการใช้สนับเขาตรวจหมด ปรากฏว่าไม่มีร่องรอยการใช้สนับ

มือยิง ผู้ก่อเหตุอ้างถึงว่าผู้เสียชีวิตใช้สนับไปต่อยเขาก่อน?
สมเกียรติ : ไม่มีครับ มือผู้เสียชีวิตลักษณะจะปูดขึ้นมาหน่อยนึง ปกติถ้าเกิดใช้สนับต่อยต้องเป็นแผลฉีกขาด แต่ที่เห็นเป็นแผลบวม เกิดจากการกระแทก ไม่ได้เกิดจากการใช้สนับ จากนั้นมี การนัดเจรจากัน ซึ่งผู้เสียชีวิตสารภาพตลอด เขาสำนึกแล้ว ยอมทุกอย่าง เพียงแต่แต่ค่าเสียหาย มันตกลงกันไม่ได้ จนถึงมาเกิดเหตุในวันนั้น
มีการพูดคุยพูดจากันอย่างไร?
ปัท : ไม่เคยเจอต่อหน้าต่อตาค่ะ ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เจอกัน วันต่อยก็ไม่ได้ขึ้นโรงพัก ตอนไปมอบตัวก็แยกกันไป
ล่าสุดเขาเรียกค่าเสียหาย 9 ล้าน เพราะว่ากระจกแว่นเขาแตก และน่าส่งผลกับตาเขา ทำให้ดูยากตอนกลางคืน?
ปัท : หนูเพิ่งจะทราบว่ามีกระจกเข้าตา เพราะตอนแรกไม่มีการแจ้งว่า กระจกเข้าตา แจ้งแค่ว่ามีบาดแผลที่ตา ที่มองเห็นในรูป ตาเขาเสมือนช้ำเลือด หนูรู้แค่นั้นค่ะ
พี่ได้ไปตามมั้ยเบื้องต้น?
สมเกียรติ : ได้คุยกับผู้ก่อเหตุ พวกเราแจ้งว่าทางพวกเราผิด ที่ทำร้าย ร่างกาย มีค่าเสียหายเท่าไหร่ให้ลองคำนวณมา ก็คุยกันปกติ ไม่มีความคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุยสนทนาปกติไม่มีอะไรเลย แต่ค่าเสียหาย 9 ล้านนี่พึ่งจะทราบ มันเป็นค่าเสียหายที่สูงเกิน
กระทั่งล่าสุด 3 เดือนผ่านไป เกิดอะไรขึ้น?
ปัท : ระหว่างนั้นก็ให้ความร่วมมือตร.ปกติ นัดไปสอบปากคำเพิ่มเติม นัดไปตรวจสภาพรถ ไปตามนัดทุกคราวปกติเลยค่ะ แต่จะมีครั้งนึงที่เขาให้ไปส่งตัวอัยการ ทางตร.เขาแจ้งว่ายังส่งตัวอัยการ ไม่ได้ หนึ่งสอบปากคำยังไม่เสร็จเรียบร้อย สองยังไม่ตรวจสภาพรถ ทางคู่กรณีไม่ยอม เอารถมาตรวจสภาพรถค่ะ ราวกับต้องตรวจพร้อมค่ะ
วันที่เกิดเหตุ ได้ห้ามม่อนมั้ย?
ปัท : ห้ามค่ะ แต่เสมือนตอนนั้นเขาโมโหค่ะ เราก็ผิดที่เขาโกรธค่ะ
สมเกียรติ : กรณีที่ฝ่ายนั้นกล่าวถึงว่าขับแล้วหนี ไม่ใช่นะ สภาพที่เขาแยกจากกันในจุดเกิดเหตุ ฝั่งผู้เสียชีวิต ขับรถขึ้นทางด่วน พอลงทางด่วนก็ไปสน. ลงบันทึกประจำวันว่ามีอุบัติเหตุกับคู่กรณีนี้ และก็นำมาแสดง กับพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันว่าไม่ได้หนี ไม่ได้ทำร้าย ร่างกายแล้วหนี พอลงพื้นที่ได้ตรงไหนก็ลงประจำวัน แล้วกลับมาติดต่อภายในคืนนั้นเลย
ฝั่งผู้ก่อเหตุตอนนี้อยู่ในเรือนจำ พยายามติดต่อภรรยาผู้ก่อเหตุ แต่แกไม่รับสาย ก็เลยติดต่อไม่ได้ ก็ต้องรอฟังอีกมุมกล่าวด้วย วันนั้นที่เกิดเหตุยิงกัน เกิดอะไรขึ้น?
ปัท : วันนั้นตร.นัดไกล่เกลี่ยปกติ หนูก็ไปตามนัดปกติ มีพี่ทนายไปด้วย ทางพี่ตร.นัดบ่ายโมง หนูไปถึงสถานีตำรวจบ่ายโมงนิด ๆ แต่ทางคู่กรณียังไม่มา มาถึงประมาณบ่ายสองโมงครึ่งกว่า ๆ พอมาถึงยังไม่ได้กล่าวอะไร ประมาณสิบนาทีได้ เขาก็ยิงเลยค่ะ ตร.ถามเรื่องค่าเสียหายที่ เขาเรียกร้องทางหนู หลังจากนั้นตร.ถามอะไรต่อไม่แน่ใจ ทางทนายเขาเลยออก ไปคุยข้างนอกกับคู่กรณี ข้างในก็มีหนู ลูกสาว สามี พี่ทนายและแฟนทนาย และก็แฟนคู่กรณี เขาออกไปไม่นาน ประมาณ 5 นาทีก็เดินกลับเข้ามา ทีนี้ทางภรรยาผู้ก่อเหตุก็ราวกับถามคำถามว่า ไม่คิดจะขอโทษเลยเหรอ แฟนหนูนั่งหันหลังให้ เขาราวกับหันกลับมาว่าขอโทษแล้วกลับไปอ่านเอกสารต่อ ด้วยเหตุว่ามีเอกสารที่ตร.ให้อ่านรวมทั้งเซ็น แค่นั้นล่ะค่ะ บอกไม่ทันจบคำ เขาก็โดนยิงรวมทั้งล้มลงไปเลย

มีการทะเลาะเบาะแว้งอะไรมาก่อนมั้ย?
ปัท : ไม่ค่ะ ไม่ได้คุยอะไรกันเลย ตร.ก็นั่งอยู่ด้วยค่ะ
คุณแอน เมียคุณพี ผู้ก่อเหตุ พูดว่าไม่เคยขอโทษเขาเลย?
ปัท : ก็ไม่เคยเจอกันซึ่งๆหน้าเลยค่ะ วันนั้นเป็นคำสุดท้ายที่เขาถามคำถามว่าไม่คิดจะขอโทษเลยเหรอ แฟนหนูก็เลยหันมาขอโทษค่ะ ยังบอกไม่ทันจบคำดี เขาก็ยิงเลยค่ะ หนูตกใจ หันไปเห็นตอนเขาจ่อยิงพอดี แฟนหนูล้มไปแล้ว ลูกหนูก็ร้อง หนูสติแตกแล้วค่ะ
ตร.ทำอย่างไรตอนนั้น?
ปัท : เขาก็ตะลึงงัน อึ้งอะไรอยู่ไม่รู้ แต่ตอนนั้นหนูไม่ได้สนใจตร. แล้วค่ะ
ตอนแรกมีข่าวว่าแฟนคุณพีผู้ก่อเหตุใส่กันเสียง ใครใส่กันแน่?
ปัท : หนูไม่ได้เห็นเองค่ะ มีภรรยาพี่ทนาย เขาเป็นคนมีความคิดเห็นว่าทางคู่กรณีเขาใส่กันเสียง ก็คิดว่าเขาจัดแจงการ ไม่งั้นคงไม่อยู่ที่หู และก็ลูกกระสุนปืนคงไม่คากระบอกอยู่
คนก็ว่าฝั่งคุณว่าเหมาะสมแล้ว ไปทำเขาก่อน พอถึงเวลาก็พูดว่าคนตายเป็นคนดีทุกครั้ง?
ปัท : หนูไม่ได้เสพข่าวสารเองค่ะ ทางเพื่อนหรือญาติโทรมาบอกว่าเป็นแบบนี้ ๆ นะ หนูไม่ได้สนใจอะไรเลยค่ะ
อยู่ในสายกับ “คุณแอน” พอจะรู้เรื่องเหตุการณ์ที่ต่อยต่อยกันครั้งแรกมั้ย?
แอน : จากที่พีให้ปากคำกับทางตร. เขาพูดว่าเขาขับรถอยู่เลนขวา กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน เขาไปส่งของเสร็จที่เพชรเกษม หนูโทรบอกเขาว่าทานข้าวอะไรมั้ย เขาส่งของเสร็จพอดี พูดว่าจะกลับมากินข้าวที่บ้าน พอขับไปปรากฏว่า มีรถมาประกบข้างเขา แล้วโยนขวดชูกำลังใส่หน้ารถเขา เขาก็เลยจอด เขาเปิดกระจกจะกล่าวคุยด้วย ก็ตามคลิปเลยค่ะ
วันนั้นคุณพีเองอาการเป็นอย่างไร?
แอน : ตาทั้งสองข้าง ข้างในตาขาวมีแต่เลือด ตาด้านซ้ายปิด ใช้การไม่ได้ มันลืมตาไม่ขึ้น ด้านขวามีรอยระบม ลืมตาได้แค่นิดเดียว แทบลืมไม่ได้ ดั้งหัก ฟันหักค่ะ
กระจกจากแว่นไปแทงตาหรือไง?
แอน : กระจกไม่ได้แทงตา คงจะโดนแล้วหลุดตั้งแต่หมัดแรก แล้วโดนย้ำ ๆ บ่อย ๆ อีกหลายหมัด
ผลระยะยาวกับคุณพี เป็นยังไง?
แอน : ตาของพี ในม่านตาฉีกให้ขาดข้างใน ตอนแรกหมอดูลึกกว่านั้นไม่ได้ ด้วยเหตุว่าเกิดการบวมไปหมดเลย หมอกล่าวว่าให้ลดการบวมก่อน แล้วค่อยมาดูกันว่าข้างในมีอะไร หยุดไปเป็นเดือนค่ะ พอตาเริ่มยุบไปส่งก็เจอว่ารูม่านตาฉีกขาด ก็ทำเลเซอร์เพื่อสมานแผล
ล่าสุดวันเกิดเหตุ ที่สถานีตำรวจ มันเกิดอะไรขึ้น?
แอน : จริง ๆ เราต้องการเรียกไปพูดจานี่แหละค่ะ เพื่อให้เขาแสดงความรับผิดชอบ ว่าเขาทำร้าย ร่างกายแฟนพวกเรา ทีนี้ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จนหนูติดต่อผู้รายงานข่าวไปวันที่ 30 วันนั้นไม่มีอะไรติดต่อเรา ต้องให้ตร.เป็นคนช่วยดูกล้อง หนูก็ไปดูกล้องด้วย หลังเกิดเหตุ พีเขาขับรถตามเพื่อให้คู่กรณีหยุดรถแล้วมารับผิดชอบตัวเขา ที่ทำและจากนั้นก็ขับรถหนีไป ทีนี้เขาก็บีบแตรที่ตรงนั้น เนื่องจากว่า มีป้อมยามอีกที่ตร.เดอะมอลล์บางแค เขากะให้จอดตรงนั้นเพื่อคุย แต่คู่กรณีไม่หยุดคุย ขับรถเบียดเราและจากนั้นก็ไปเลย กระทั่งพวกเราขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ หนูขอบคุณที่เขาทำข่าวสารให้จนถึงได้มีการติดต่อกลับมา 2-3 วัน เขาให้ทนายโทรมา กล่าวว่าจะให้กล่าวคุย คือข้อมูลพวกนี้ ต้องการให้ทางคุณตร. เขาเป็นคนอธิบายอีกทีแล้วกัน
เหตุการณ์วันที่เกิดเหตุ คุณแอนทราบมั้ยคุณพีพกปืนไปด้วย?
แอน : ไม่ทราบเลยค่ะ เพราะว่าเราตั้งใจไปเจรจา ให้เขารับผิดชอบ พวกเราบ้าง (เสียงสั่นเครือ) พวกเราสูญเสียไปมากมาย เขาเจ็บมากค่ะ มันสาหัส ต้องพักรพ. หยุดยาวนานหลายวันไม่ได้ทำการทำงาน ตาเป็นอวัยวะที่เราต้องใช้แล้วก็บอบบางมาก มันมีเอฟเฟกต์ตามมาเยอะแยะมาก มีอาการตอนกลางคืน ที่เสมือนฝ้า รวมทั้งนอนไม่หลับ เจ็บปวด หลาย ๆ อย่างค่ะ
จุดพีคที่ทำให้คุณพีชักปืนมายิงเกิดอะไรขึ้น?
แอน : ทนายฝั่งเราเปิดถามฝั่งนู่นก่อนว่ามีตัวเลขมั้ย ที่จะรับผิดชอบ ค่ารักษา ค่าอะไรหลาย ๆ อย่าง ทางโน้นก็ตอบว่าไม่มี ทีนี้ตร.ก็เลยกล่าวว่าหากอย่างนั้น ทางพวกเราเปิดจำนวนไปได้เลย พวกเราก็เลยเปิดไป 9 ล้านค่ะ จากนั้นทางตร.ก็แจ้งประมาณว่ามันคงไม่ถึงขั้นนั้น ก็จำคำบอกเล่าไม่ได้ค่ะ แต่หนูก็ไม่ได้จำภาพได้ชัดเจนทุกคำว่าเขาตอบโต้ยังไง แต่ทางคู่กรณี หนูถามคำถามอะไรไป เขาไม่ตอบ เขามีตอบอยู่ครั้งนึงว่าทำไมคุณถึงรังแกแฟนหนูได้รุนแรงขนาดนี้ เขาบอกเหตุผลของเขาว่า รถแฟนเราปาดหน้าเขา เปิดไฟสูง และก็หยุดกล่าว เพราะว่าหันไปมองทางพี่ผู้หญิงอีกคน ซึ่งไม่ทราบเป็นใคร เขาก็เลยหยุด หนูก็ถามต่อว่าต่อขานพี่รู้มั้ยพี่ทำผิด เขาก็เงียบ หนูก็ถามคำถามว่าแล้วพี่รับผิดชอบอะไรกับแฟนหนูได้บ้าง เขาก็เงียบ ก็เลยกล่าวว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ที่เรามาเจรจากัน พี่ไม่เคยโทรศัพท์หาหนูเลย พี่ให้แต่ทนายโทรศัพท์หาหนูครั้งเดียว แล้วไม่มีการแสดงความเสียใจ อยากรับผิดชอบอะไรเลย พวกเราไม่ได้ไม่ประนีประนอมนะคะ เพียงแค่คุณพูดว่าค่ารักษามีเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ผมให้คุณก่อนเท่านี้ ผมมีอยู่เพียงนี้ ผมขอโทษ สิ่งที่เราต้องการได้คือที่ตรงนี้ แต่มันไม่มีเลย

คุณพี เอาปืนมายิงตรงจุดไหน?
แอน : หนูไม่รู้ค่ะ เนื่องจากหนูดูแค่คู่กรณีเพื่อถามคำถามเขาอย่างเดียว จากนั้นได้ยินเสียงปืน สนั่นหู หูอื้ออึงไปเลย
ทนายเพชรเป็นตัวแทนทนายสอง?
ทนายเพชร : ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจ กับเมียผู้ก่อเหตุ และก็ผู้เสียชีวิต ในมุมมองทนายรวมทั้งภรรยาผู้เสียชีวิต ตอนนี้เมียผู้เสียชีวิต โดนจู่โจมหนักมากในโซเชียล มีการไปสร้างข่าวสารว่าผู้เสียชีวิต ควรตายแล้ว ไปก่อเหตุทำร้าย เขาก่อน ซึ่งที่ตรงนี้อยากที่จะให้ย้อนไปที่อ้างถึงว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ก่อเหตุก่อน ที่ภรรยาผู้ก่อเหตุอ้างอย่างนั้น คนพวกเราหากขับรถกันไปดี ๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมีการไปปาขวดกันมั้ย จริงๆแล้วฝั่งเราเองก็มีพยานยืนยันว่าผู้ก่อเหตุมีการขับรถในลักษณะยั่วยุ เปิดไฟสูง พยายามปาด พยายามท้าทายจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ปาขวด แล้วมีเหตุการณ์ต่อยทำร้ายกันจริง ส่วนผิดก็ผิดแน่ ยอมรับ แต่ที่พยายามสร้างประเด็นตามเฟซบุ๊ก ตามสื่อต่าง ๆ ว่าใช้สนับมือต่อย หรือรุมทำร้าย พยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่า ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะเหตุว่าใบรับรองหมอครั้งแรก ก็ไม่มีการบอกว่าใช้สนับมือต่อย มีการไปขอใบรับรองแพทย์ใหม่มา กล่าวถึงว่าสนับมือต่อย ก็อาจเกิดจากการเล่าให้แพทย์ฟัง เพราะผู้ก่อเหตุใส่แว่น แล้วใบรับรองหมอบอกว่าถูกของแข็งกระทบ ซึ่งคาดการณ์ว่าน่า จะถูกแว่นมากกว่า หรือออกข่าวว่าไปรุมทำร้ายเขาก่อน ควรตายแล้ว พยานหลักฐานในสำนวน พนักงานที่มีหน้าที่สอบสวน สอบพยาน ที่เป็นคนถ่ายคลิปในที่เกิดเหตุ ยืนยันว่าน้องชายที่ลงไปห้าม รวมทั้งไม่ได้ตั้งข้อหาร่วมกันทำร้าย ร่างกาย คำว่าก่อเหตุก่อน ก็ต้องดูว่าเหตุทำร้าย ครั้งนี้ คุณมีส่วนร่วมมาตั้งแต่ต้นหรือไม่ ส่วนที่บอกว่าตาบาดเจ็บมาก สูญเสียการมองมองเห็น ตรงนี้ไม่เห็นใบรับรองแพทย์ ผมไม่ยืนยัน แต่สุดท้ายแล้ว มั่นใจว่าพวกเรามีกระบวนการ ตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ต้องการให้ใช้สื่อโซเชียล หรือการสร้างความชอบธรรมในการใช้อาวุธปืน ตัดสินคนอื่นโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ผมในฐานะประธานชมรมทนายความจังหวัดชลบุรี รู้จักท่านที่ถูกยิงเป็นการส่วนตัว การที่คุณไปยิงทนายความด้วย โดยคุณไม่รู้จักเขามาก่อนเลย ไม่มีการแสดงความข่มขู่ อะไรคุณมาก่อนเลย พูดคุยกันด้วยดี ตามมาตรฐานวิชาชีพ คุณไปยิงเขา คุณมีสาเหตุอะไร ครอบครัวเขาก็เดือดร้อน วันนี้ที่อยากฝากไว้มีเท่านี้
คุณพี ไม่ได้ยิงแค่คุณม่อนคนเดียว แต่ยิงทนายความอีกคนนึงด้วย ซึ่งทนายความไม่ได้ทราบเรื่องอะไรเลย ทนายความเพิ่งมาว่าความให้คุณม่อนครั้งแรก เลยเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นมา เรื่องตอนนี้ไปกันใหญ่โตแล้ว เพราะว่ามีอีกทั้งสองมุมมองที่กล่าวคุยกัน ถ้าหากพูดในมุมการสู้คดี เขาจะไปต่อสู้คดีมุมไหน?
ธนกฤต : อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ผู้ใช้รถใช้ถนน ถ้าหากทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎจราจร แล้วก็ใช้ความใจเย็น เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น เรื่องนี้เกิดจากความใจร้อน และเกิดความสูญเสียเกิดขึ้น ซึ่งบ่อยครั้งเช่นเดียวกัน ในเวลานี้หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ อาจอัดคลิปวิดีโอแล้วให้ตร.ไปดำเนินการได้ ถ้าหากใช้วิธีการที่เกิดขึ้นก็เป็นอันตราย
มุมคุณแอนจะเอาอย่างไรต่อไป?
แอน : ตอนนี้ถ้าหากแฟนพี่คมสันอยู่ที่นั่น หนูก็ฝากขออภัย ตอนแรกหนูตั้งใจจะโทรศัพท์ไปหาวันนี้แหละค่ะ (ร้องไห้) หนูขอโทษจริงๆค่ะ หนูไม่อยากให้เกิดความสูญเสียกับใครทั้งนั้น ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นกับใครหลายๆคนไม่ว่าจะตัวพี่หรือตัวหนู เนื่องจากว่าเราสูญเสียทั้งสอง หนูก็ไม่ได้อยู่กับแฟน เขาอยู่ในเรือนจำ พี่ก็ไม่ได้อยู่กับแฟนพี่ (ร้องไห้) ไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย หนูขออภัยจริงๆหนูจะพยายามแก้ไขเท่าที่หนูแก้ไขได้ อะไรที่หนูทำได้ หนูจะพยายาม (ร้องไห้)
เพราะอะไรวันนั้นพี่สมเกียรติไม่ได้ไป กลายเป็นทนายอีกคน?
สมเกียรติ : ผมอยู่สกลฯ เขาเลยติดต่อทนายสรณ์ ซึ่งเขาพึ่งจะไปครั้งแรก ไม่ได้ทราบเรื่องนี้เลย
พีทราบมั้ยว่าวันนั้นที่ไป ไม่ใช่ทนายสมเกียรติ?
แอน : รู้ค่ะ แอนถามทนายที่ถูกยิงว่าพี่โทรศัพท์หาหนูมั้ย เขาบอกไม่ เขาเพิ่งมา (ร้องไห้) หนูมีความรู้สึกว่าเขาไม่ได้เจตนาค่ะ หนูได้คุยกับพี่ทนายอนุสรณ์แล้ว เขาก็ไม่ได้ติดใจนั่น เขานั่งติดกับพี่ม่อน เลยอาจโดนลูกหลงไปด้วย หนูต้องขออภัยทุกฝ่าย ทุกๆคนจริงๆค่ะ หนูก็ไม่ได้ต้องการที่จะให้เกิดแบบนี้ (ร้องไห้)
ตอนนี้เปิดไปในทวิตเตอร์ มีข้อความน้องคนนึง มีแฮชแท็กถึงโหนกระแสพอดี ขอถามคุณแอนให้กระจ่าง เขาบอกว่าก่อนที่จะโทษคนตาย ขอให้ศึกษาพฤติกรรม มือยิงก่อน คนแถวบ้านเขาหน่ายกันหมด เนื่องจากว่าชอบขับรถปาดไปมา มีปัญหาไปทั่วเรื่องขับรถ ชอบยั่วยุคนอื่นแล้วชอบ ถ่ายคลิปเรียกเอาเงิน อยากให้ทีมข่าวสารลงพื้นที่แล้วถามคนแถวนั้นหน่อย เรื่องจริงเป็นยังไง?
แอน : ไม่ได้เกี่ยวกับพีเลยค่ะ หากพูดถึงกรณีนี้หนูพอรู้ดีว่าเป็นใคร หนูเป็นคนขับรถ ออกจากบ้าน เพื่อไปทานข้าวข้างนอกตอนเที่ยง แล้วเขาจอดในที่ห้ามจอด หนูแค่บีบแตรให้เขาออกจากตรงนั้นเพื่อเราจะได้ออกประตูได้ง่ายขึ้น ตร.มีการสอบปากคำ ปรับค่าเสียหายไปเรียบร้อย ทางฝ่ายเราเป็นฝ่ายถูก ทางเขาเป็นผู้ต้องเสียเงินค่ะ เขาก็ยอมรับว่าเขาผิด เขามีการมาทุบกระจก ด่าทอด้วย หลายอย่างด้วย ต้องการที่จะให้ลองไปติดต่อทางตร.อีกทีได้ค่ะ

ล่าสุดมีไรเดอร์คนนึง ถ่ายคลิปวันต่อยกัน ทราบสาเหตุวันต่อยกัน สาเหตุที่ มือยิง ยิงเขา ได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาช่อง 3 คุณดูอยู่แล้วก็ขี่มาเหรอ?
แอน : ใช่พี่เอมั้ยคะ
เชิญคุณเอ ไรเดอร์ อยู่ในที่เกิดเหตุ คุณดูอยู่และขี่มอเตอร์ไซค์มา คุณอยู่ในเหตุการณ์ มันเกิดอะไรยังไง?
เอ : ขอแสดงความเสียใจกับทางน้องนะครับ ผมคิดอยู่หลายอย่างว่าคลิปที่ผมให้เป็นหลักฐาน เป็นจุดให้น้องต้องมาเสียชีวิตหรือไม่
ปัท : ขอบคุณพี่จริง ๆ ค่ะ ที่มีคลิปจากพี่ และก็พี่ให้ปากคำ ถ้าเกิดไม่ได้พี่วันนั้น บางเรื่องจะไม่กระจ่างค่ะ หลานเขาอาจโดนไปด้วยค่ะ ตอนแรกเขาไม่ได้อะไรเลย
เอ : ทางคุณปัทไม่เคยเจอเลย เห็นที่น้องเขาไปห้ามเท่านั้นเอง
แล้วคุณแอนรู้จักคุณได้อย่างไร?
เอ : คุยกับคุณพีร์ คุยมาตลอดครับ
แอน : หนูก็ขอบคุณ ที่วันนั้นพี่ติดตามถ่ายคลิปส่งให้พีร์ และเรียกกู้ภัยให้เขาวันนั้น ถ้าไม่ได้พี่หนูก็ไม่ทราบเขาจะมีที่พึ่งที่ไหน (ร้องไห้)
คุณต้องการกล่าวอะไร?
เอ : วันที่เกิดเหตุ ผมเป็นไรเดอร์ค่ายสีส้มค่ายนึง ผมรับออเดอร์จากลูกค้า ไปที่นครปฐม ผมกำลังกลับ มันเป็นช่วงเย็นที่รถติดมาก มาถึงจุดเกิดเหตุ ตรงข้ามปั้มบางจาก คงจะอย่างกับช่อง 3 เก่า มุ่งหน้าเดอะมอลล์บางแค เดิมทีที่ผมมองเห็น ผมเห็นรถเก๋ง ลักษณะเบรกตัวโก่ง ล้อไปทางรถกระบะ แล้วรถกระบะฝั่งคุณพี ราวกับเปลี่ยนช่องทางมาทางด้านซ้าย ราวกับปาดหน้ากัน ตรงจุดนั้นมีการเถียงกันโวยวาย มีแกร็บขวางรถอยู่ เขาก็ดู แต่เราตามแกร็บไม่ได้ สิ่งที่ผมได้ยิน น้องม่อนบอกว่ามึงกวนตีนกูเหรอ แล้วพีพูดว่าผมไปกวนตีนคุณตอนไหน พีตะโกนออกมา ม่อนก็ใส่เลย แต่ม่อนลงจากรถก่อนผมหยิบกล้องขึ้นมา เราเหมือนไทยมุง ที่อยู่นั่นว่าเกิดอะไรขึ้น ใส่แล้ว 3 ที เสียงสนั่นเลย ผมไม่เห็นว่าเขาใส่สนับอะไรนะ แต่มีความเห็นว่าต่อย น้องพีก็ร้องลั่นเลย
ผมมองว่าอ้าว ทำร้ายกันแล้วโว้ย แล้วผมมองเห็นแฟนน้องม่อน เข้าไปดึง บอกว่าพอแล้ว ๆ อย่าทำเขา อย่า เสียงดังเลย แต่น้องม่อนสลัด กระเด็นออกมาด้านหลัง เหวี่ยงไปโดนรถ ดูแล้วน้องผู้หญิงเอาไม่อยู่ วิ่งไปหน้ารถ เปิดประตูขึ้นรถ อึดใจเดียว น้องผู้ชาย เสื้อที่มีสีขาว ลงจากรถของม่อน ซึ่งเป็นหลาน จังหวะนั้นแหละผมถึงจับโทรศัพท์ขึ้นมา ตามความเข้าใจคนแถวนั้น คิดว่ารุมแน่ ก็ทำอะไรดี ก็ถือโทรศัพท์มาถ่ายได้ประเดี๋ยวเดียว เนื่องจากรถกระบะสองแถวสีแดง บีบแตรไล่ผมให้ขับไป จังหวะหักกลับมาได้ ม่อนก็ใส่อีก 2 หมัดก็ตามคลิป ตอนนั้นที่ถ่าย รู้สึกว่าน้องเสื้อตัวที่เป็นสีขาวลงไปช่วยคน ของเขาหรือเปล่า แต่มาวิเคราะห์คลิปที่พนักงานสอบสวน เรียกไปสอบ ช่วยกันดู ภาพสโลว์ น้องเขาดึงแขนม่อน ถ้าเราทะเลาะกัน ผมจะจับคนของเราเพราะเหตุไร ผมก็ต้องเปิดก่อนแล้ว พวกเราต้องช่วยคนของเรา ม่อนก็มีความคิดเห็นว่าหลานเขาเข้ามาช่วย ผมคิดเองว่ามาอีกสองคน ก็เลยเปิดไปอีก เสื้อที่มีสีขาวก็เลยขวาง มือมาแบบนี้ ไม่มีคำพูดครั้บ ถ้าคนจะทำร้าย คนต้องอ้าหมัด แต่เขาไม่ง้าง ส่วนมือสุดท้ายที่เขายกมือขึ้น และก็ยกไปในรถ อันนี้ตอบไม่ได้ น้องเสี้อขาวต้องตอบเอง
คุณดูรายการอยู่แล้วรีบมาเลย?
เอ : ใช่ครับ เพราะเหตุว่ามีหลายด้าน แล้วทุกคนไม่เคยเจอผมเลย การที่สื่อเอาไปต่อเรื่อยตามโซเชียล มันไม่ใช่ข้อความจริง
ขอบคุณพี่ที่มาอธิบาย สดกว่านี้ก็ปลาในน้ำ ผมยังงง?
เอ : ตอนน้องม่อนขับรถออกไป ไรเดอร์แทบถูกชนอีกคน เพราะว่าเขาขับจี้ให้หลบออก ผมประกบซ้าย ไรเดอร์อีกคนประกบด้านหน้ารถ เพื่อไม่ให้หนี เพื่อให้อยู่ ส่วนน้องพี ขับรถตาม กดแตรสนั่นตลอดทาง น้องไรเดอร์ก็แทบถูกชนด้วยเหตุว่าบี้กันตลอด แล้วพอหลุดไป มองเห็นพี่ทนายพูดว่ามีการชนเพิ่มหรืออะไร น้องพีขวางไม่ให้หนี เขาปัดมาใส่ ผมก็มองเห็น ผมเข้าใจว่าเขาจะเข้าแยกไฟแดงเดอะมอลล์บางแค แต่ไม่ได้เข้า เบี่ยงซ้ายขึ้นกาญจนากลับไปเลย น้องพีพอหลุดจากไฟแดงก็จอดนิ่ง เขาไปไม่ไหวแล้ว
แอน : (ร้องไห้) ผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตามไป เพราะ ผมถ่ายคลิปตามเขา ก็จะเป็นประโยชน์บ้างมั้ย ผมเคาะประตูเรียกน้อง ๆ จังหวะที่ลงมา เลือดเต็มปาก หน้าฟุบอยู่กับพวงมาลัย เขาไปไม่ได้แล้ว เขาพูดว่าพี่ครับ ช่วยผมด้วย ผมถูกรังแก ปาก-มือสั่นไปหมด หยิบโทรศัพท์ก็ร่วง ผมก็พูดว่าให้จอดข้างทาง อย่าฝ่าฝืนขับ เขาขับเข้าข้างทางก็ไม่ได้ สติเขาไม่ได้ จังหวะนั้นผมก็วิ่งข้ามถนนหนทางไปแจ้งกู้ภัยนั่น ก็เลยเป็นที่มารายการช่องนึงถ่ายภาพเต็ม ๆ ที่หน้าเขาบาดเจ็บ แต่ที่เห็นหน้าสะอาด กู้ภัยเขาเช็ดหน้าให้แล้ว
คุณปัทอยู่มุมนึง นี่อีกมุมนึง ที่คุณเออยู่ในเหตุการณ์แล้วเขามองเห็น ฝั่งพี่สมเกียรติ เลยพาฝั่งม่อนไปมอบตัวว่าทำเขาจริง ๆ หลังจากนั้นประเด็นที่เกิดขึ้น มันไม่ได้จบ มันต่อเนื่องมาถึงเหตุการณ์ล่าสุด พี่ธนกฤต มองยังไง?
ธนกฤต : ต้องแยกเรื่อง การก่อเหตุบนท้องถนนหนทาง ไม่แน่ใจเฉี่ยวชนด้วยหรือไม่ การทะเลาะวิวาท ก็เหตุนึง เป็นผู้ก่อเหตุ เขาต้องรับผิดในพื้นฐานก่อน เนื่องจากว่าทำร้าย ร่างกาย ตัดมาตอนมาที่โรงพัก คนที่ได้รับบาดเจ็บ มาก่อเหตุยิงเสียชีวิตอีก ก็เป็นอีกเรื่องนึง เสมือนสามช่วงต้องแยกว่าเกิดอะไรขึ้น คนบาดเจ็บยังมีความรู้สึกอยู่ในใจเลยก่อเหตุ แต่ไม่ฟันธงว่าใครถูกหรือผิด ด้วยเหตุว่าคำตอบ มีอยู่ในช่วงเวลาแล้ว ตร.ก็ทำตามหลักฐานที่เกิดขึ้น ส่วนนโยบาย กระทรวงยุติธรรม หากเวลามีเหตุแบบนี้ ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ก็มายื่นขอรับเงินแก้ไขที่กระทรวงยุติธรรม ส่วนประเด็นทนาย ความที่บาดเจ็บ ก็มายื่นขอรับความช่วยเหลือ เราจะดำเนินการให้ ประสานสภาทนายความให้ จริง ๆ โดยเรื่องราวก็ไม่เกี่ยวข้องเลย เขาปฏิบัติหน้าที่ ท้ายที่สุดก็เป็นบทเรียน เป็นอุทาหรณ์ต้องเตือนกัน ทุกอย่างต้องใจเย็น

แฟนคุณแอนบอกมั้ยว่ามีสนับมือ?
แอน : บอกค่ะ
คุณเพชรดูยังไง?
ทนายเพชร : จากลักษณะบาดแผล ระหว่างรูปคนโดนสนับมือ แผลไม่ใช่นิดหน่อยเท่านั้นแน่นอน แล้วอย่างที่กล่าวว่า ใบรับรองฉบับแรกไม่มีพูดว่าสนับมือ ส่วนใบรับรองหมอที่คุณ พยายามกล่าวอ้างว่ามีสนับมือ มันคงจะเกิดจากคุณไปแจ้งแพทย์เอง แพทย์คงจะใช้คำว่าสนับมือ หรือของแข็ง ซึ่งของแข็งคงจะเกิดจากแว่นเองมากกว่า พยานทุกคนก็ยืนยันว่าไม่ได้มีสนับมือ ที่พูดว่าสนับมือ เป็นการสร้างความยุติธรรมในการใช้อาวุธปืนยิง ซึ่งไม่เห็นด้วย
ธนกฤต : นี้ควรให้ต่อสู้กันในชั้นศาลดีมากยิ่งกว่า มาหักล้างกันในรายการก็ไม่เหมาะ ก็อยากฝากเตือนสถานีตำรวจ ต่อแต่นี้ไป ถ้าเป็นเหตุทะเลาะวิวาท อยากให้เจ้าหน้าที่สั่งย้ำเรื่องการตรวจตราอาวุธ โรงพักเป็นสถานที่ไม่น่าเกิดขึ้น ฝากผบ.ตร. ให้ตรวจเรื่องนี้ไว้ เป็นระเบียบ ข้อบังคับดีกว่าจะได้ปลอดภัยกับผู้อื่น
ปัทอยากฝากอะไร?
ปัท : ถ้าหากเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง อยากให้เป็นคนละเรื่องกันค่ะ แต่นี่เขาทำเกินกว่าเหตุค่ะ แทนที่จะดำเนินคดี ตามปกติที่ควรจะเป็น แฟนหนูก็จะได้รับโทษตามกฎหมาย พอเขาใช้อาวุธปืน แฟนหนูไม่ได้บาดเจ็บ เขาเสียชีวิตเลย (ร้องไห้) แล้วหนูกับลูก คนข้างหลังล่ะค่ะ
ทนายเพชร : ขอฝากเรียนไปยังท่าน นายกสภาทนายความเพิ่งได้รับตำแหน่งมาเดือนสองเดือน อยากให้ดูแลเรื่องความปลอดภัย วิชาชีพทนายความ เราเรียนแต่กฎหมาย ไม่เคยเรียนความสามารถป้องกันตัว ก็ต้องการที่จะให้มีมาตรการดูแลรักษา ความปลอดภัย ฝากไว้เท่านี้ครับ
สมเกียรติ : ฝากถึงสื่อโซเชียลที่พิพากษ์โดยไม่ได้รู้จริง ขอให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปก็ตามใจครับ